MSR เป็นแบรนด์ที่ออกแบบอุปกรณ์ต่างๆ ที่ช่วยเราผจญภัยไปในที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบายและมั่นใจมากยิ่งขึ้น ด้วยวัสดุน้ำหนักเบาและการออกแบบที่แข็งแรงทนทาน ทำให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆของ MSR เป็นตัวเลือกที่นักเดินทางทั่วโลกเลือกใช้
ในปีนี้ MSR มีอุปกรณ์ใหม่ๆมากมาย ที่ออกมาให้เราได้นำไปใช้ในการเดินทางอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเต๊นท์ตัวใหม่มากถึง 3 รุ่นที่น่าใช้สุดๆ เตา Stove System ที่ใช้งานง่ายและประหยัดพลังงาน เครื่องกรองหลากฟังก์ชั่นที่ใช้งานได้ในทุกทริป และชุดหม้อน้ำหนักเบา
มาถึงเต๊นท์ตัวใหม่ที่ทุกคนรอคอย Elixir V2 เต๊นท์น้ำหนักเบาจาก MSR ที่ราคาเร้าใจมากๆ พัฒนาจาก Elixir ตัวเดิมให้น่าใช้มากยิ่งขึ้น เป็นเต๊นท์ที่เหมาะสำหรับทุกการเดินทางไม่ว่าจะเดินเดินป่าหรือแคมปิ้งก็ได้ทั้งนั้น
– มาพร้อม Foot Print ในชุด สามารถใช้ปูรองเต๊นท์หรือปูแยกต่างหากก็ได้
– ชายคาทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ที่เพิ่มพื้นที่จากเดิมถึง 30 % ให้คุณสามารถใส่ของได้มากขึ้นและเข้าออกเต๊นท์ได้สะดวกขึ้น
– ซิปแบบ Glow in the Dark ที่เรืองแสงตอนกลางคืน ให้คุณเข้าออกเต๊นท์ได้ง่ายขึ้นในเวลากลางคืน
– ช่องใส่ของด้านใน สำหรับใส่ของเล็กๆ เช่นไฟฉายหรือโทรศัพท์มือถือ
ในฟังก์ชั่นสุดคุ้มนี้ มาพร้อมกับเสาอลูมิเนียมน้ำหนักเบา เรียกได้ว่าครบชุดในราคาสบายกระเป๋า ที่ใครก็เป็นเจ้าของได้ มือใหม่ที่อยากได้เต๊นท์ราคาไม่แพง ต้องตัวนี้เลย
มีให้เลือกถึง 3 ขนาดด้วยกัน
Elixir 1 (นอน 1 คน) : น้ำหนัก 1.78 kg ราคา 6,300 บาท
Elixir 2 (นอน 2 คน) : น้ำหนัก 2.24 kg ราคา 7,900 บาท
Elixir 3 (นอน 3 คน): น้ำหนัก 2.66 kg ราคา 9,900 บาท
แน่นอนครับว่าจนถึงตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักเต๊นท์ Hubba Hubba NX เต๊นท์เดินป่าน้ำหนักเบา ที่ลงตัวที่สุดสำหรับการเดินป่า เป็นเต๊นท์ที่เวลาไปเที่ยวที่ไหน ก็มักจะเห็นคนกางอยู่ตลอดๆ ด้วยขนาด วัสดุและน้ำหนักที่พอเหมาะ ทำให้เป็นเต๊นท์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้งในเมืองไทยและทั่วโลก
Hubba Tour เป็นเต๊นท์ที่พัฒนาขึ้นจาก Hubba Hubba โดยมีการเสริมส่วนของ Gear Shed เพิ่มเข้าไปกับเต๊นท์ให้กลายเป็นชิ้นเดียวกัน ให้เรามีที่เก็บสัมภาระได้มากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็สามารถใช้เป็นที่นั่งพัก หรือทำอาหารเวลาฝนตกก็ได้ พื้นที่ใต้ชายคาที่กว้างแบบนี้ทำให้เป็นเต๊นท์ที่สะดวกมากๆ สำหรับทั้งทริปเดินป่า จักรยานหรือมอเตอร์ไซด์ touring
จุดเด่นของเต๊นท์ Hubba Tour ก็คือสามารถกางได้อย่างง่ายและรวดเร็ว ด้วยระบบที่เรียกว่า ExoSkeleton Frame นั่นคือเสาเต๊นท์จะอยู่ด้านนอกของ Fly Sheet โดยตัวเต๊นท์และฟลายชีทสามารถผูกติดกันไว้ก่อนได้จากที่บ้าน ทำให้เวลากางจริง เพียงตั้งเสาขึ้นแล้วเกี่ยวฟลายชีทก็เสร็จทันที ต่างจากเต๊นท์ปกติที่ต้องกางเสาและตัวเต๊นท์ก่อนแล้วเกี่ยวฟลายอีกรอบ ดังนั้นหากเวลาที่ฝนตกหรือลมแรง เต๊นท์ตัวนี้สามารถกางได้เร็วกว่าเต๊นท์อื่นหลายเท่า
นอกจากนั้นเทคโนโลยีใหม่ของสารเคลือบกันน้ำของเต๊นท์ที่มีชื่อว่า Xtreme Shield ก็ทนทานมาก มีอายุการใช้งานนานกว่าสารเคลือบปกติถึง 3 เท่า ทำให้เต๊นท์ตัวนี้สามารถอยู่กับคุณไปได้อีกนานอย่างแน่นอน
สิ่งที่ Hubba Tour ต่างจากเต๊นท์ Hubba Hubba อย่างหนึ่งก็คือตัวเต๊นท์ด้านในจะมีมุ้งน้อยกว่า ทำให้เพิ่มความอบอุ่น ให้เรานอนได้อย่างสบายบนดอยในช่วงฤดูหนาว
เต๊นท์ Hubba Tour มีให้เลือก 3 ขนาดด้วยกัน
Hubba Tour 1 (นอน 1 คน) : 18,000 บาท
Hubba Tour 2 (นอน 2 คน) : 24,000 บาท
Hubba Tour 3 (นอน 3 คน) : 27,000 บาท
* ของล็อตแรกจะเข้ามาหลังสงกรานต์ 2018
สำหรับคนที่อาจจะมีเต็นท์ Hubba Hubba NX อยู่แล้ว หรือใช้เต๊นท์ Elixir V2 แล้วอยากได้พื้นที่ในการเก็บของและใช้สอยที่มากขึ้น ตัว Gear Shed เป็นอุปกรณ์เสริมที่ดีมากๆ โดยด้านในก็จะมีส่วนพื้นด้วย ให้เราสามารถวางของได้อย่างไม่ต้องกลัวเปียก เมื่อเอาของไว้ด้านนอกได้ทั้งหมด ภายในเต๊นท์ก็จะมีที่กว้างมากขึ้น ให้เรานอนพักผ่อนได้อย่างสบาย
สามารถใส่ได้กับเต๊นท์ MSR ตระกูล Hubba NX และ Elixir V2
- Hubba NX, Hubba Hubba NX, Mutha Hubba NX
– Elixir 1, Elixir 2 V2, Elixir 3 V2
ราคา 5,900 บาท
ในยุคนี้คนไทยเราก็เริ่มมองหาเส้นทางเดินป่าในต่างประเทศมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่สวีเดน อเมริกา หรือนิวซีแลนด์ ซึ่งเส้นทางต่างๆเหล่านั้นก็มักจะมีสภาพอากาศที่แตกต่างจากเมืองไทยเช่นลมแรง อากาศหนาว หรือแม้แต่หิมะตก ในภูมิอากาศลักษณะนี้การใช้เต๊นท์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมาก
Access 2 เป็นเต๊นท์ที่ออกแบบสำหรับทุกสภาพอากาศอย่างแท้จริง ด้วยเสาคาร์บอนที่น้ำหนักเบา แต่ทนทานมาก และการออกแบบโครงสร้างของเต๊นท์ที่เป็นโครงตัว U สามารถต้านลมได้ดีกว่าเต๊นท์ปกติ วัสดุเหนือผ้าที่หนาขึ้นให้ความทนทานและความอบอุ่นในอากาศหนาว
ใครที่กำลังมองหาเต๊นท์สำหรับไปเดินเทรลในต่างประเทศ MSR Access 2 เป็นตัวที่น่าใช้มากครับ
ราคา 24,000 บาท
ในปีนี้ชุดเตา WindBurner ได้มีการพัฒนาเพิ่มเติมขึ้นมา เพราะจุดด้อยอย่างหนึ่งของเตาแบบ Stove System โดยทั่วไปอย่างหนึ่งก็คือตัวหม้อจะอยู่บนกระป๋องแก๊สในแนวตั้ง ดังนั้นหาเราใช้หม้อขนาดใหญ่ขึ้น ความสมดุลก็จะลดลงและหม้อก็จะล้มได้ง่ายๆ ทำให้ชุดเตาที่เป็น Stove System จะมีแต่หม้อขนาดเล็ก ซึ่งเมื่อเป็นหม้อเล็ก เราก็ทำเมนูได้ไม่หลากหลาย หลักๆก็คือเป็นการต้มน้ำ
ดังนั้นสิ่งที่เปลี่ยนไปสำหรับปีนี้ก็คือ ทาง MSR ได้ทำหัวเตาแบบใหม่ที่มีขาตั้งแยกออกมาจากกระป๋องแก๊ส โดยที่ตัวหัวเตายังคงให้ประสิทธิภาพสูงและประหยัดพลังงานเหมือนเดิม โดยเมื่อหัวเตาตั้งแยกออกมา ก็ทำให้สามารถใช้หม้อขนาดใหญ่ขึ้นได้อย่างสบาย
สำหรับตระกูล WindBurner ปีนี้ก็มีตัวเลือกให้ใช้ได้มากมาย
ยังคงเป็นเตาแบบที่ตั้งอยู่บนกระป๋องแก๊สเช่นเดิม สิ่งที่ต่างออกไปในปีนี้ก็คือมีสีให้เลือกเพิ่มขึน ก็คือสีดำและสีแดง ขนาดเล็ก กะทัดรัด เหมาะสำหรับการเดินทางคนเดียว
นี่คือลักษณะของเตาที่อธิบายไว้ด้านบน ก็คือหัวเตาต่อแยกออกมาจากกระป๋องแก๊ส ความสมดุลและมั่นคงที่มากยิ่งขึ้น และอุปกรณ์ทั้งหมดในชุดก็สามารถแพคเข้าไปในตัวหม้อได้อีกด้วย ทำให้สะดวกมากๆ เวลาเดินทาง
สำหรับคนที่ชอบทำอาหารต้องตัวนี้เลย ด้วยหม้อขนาด 2.5 ลิตร ทำให้เราสามารถสร้างสรรค์เมนูได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น สามารถใช้หุงข้าวได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าเป็นเตาแบบ Stove System ที่อเนกประสงค์มากๆ
นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์เสริมให้ซื้อเพิ่มเติมได้อีก 2 ชิ้น ก็คือ
กระทะสำหรับทำอาหารบนเตา WindBurner ตัวกระทะเป็นอลูมิเนียมเคลือบเซรามิก ทำให้อาหารไม่ติด สามารถใช้ทำไข่ดาวหรือผัดอาหารต่างๆ ได้อย่างสบายๆ
ใครที่ชอบดื่มกาแฟก็สามารถเอาชุด Coffee Press ไปใส่เข้ากับหม้อ WindBurner ได้
สำหรับหม้อขนาด 1 L
สำหรับหม้อขนาด 1.8 L
เครื่องกรองน้ำตัวใหม่ที่ใช้งานได้หลากหลายมากๆ เหมือนมีเครื่องกรองน้ำ 2 แบบ ในเวลาเดียวกัน ใน 1 ชุดจะประกอบด้วย 3 ชิ้นด้วยกัน
– ถุงน้ำแบบ Roll Up ที่ทำหน้าที่เป็นถุงน้ำสกปรก
– เครื่องกรองน้ำ Trail Shot ที่ทำหน้าที่เป็นไส้กรองเวลาใช้งานแบบ Gravity หรือจะใช้เป็นเครื่องกรองน้ำแบบพกพาเวลาเราเดินทางก็ได้
– ถุงน้ำ DromLite ขนาด 2 ลิตรใช้เป็นถุงใส่น้ำสะอาดที่กรองแล้ว
ถ้าต่อทั้ง 3 ชิ้นเข้าด้วยกันก็จะเป็นเครื่องกรองน้ำแบบ Gravity ที่ทำงานด้วยแรงโน้มถ่วง เพียงแขวนถุงน้ำสกปรกไว้ นำ้ก็จะไหลผ่านไส้กรอง ไหลเข้าไปที่ถุงน้ำสะอาด สามารถกรองได้เร็ว 1 ลิตรต่อนาที่ และไส้กรองมีอายุการใช้งานนานถึง 1,500 ลิตร
นอกจากจะใช้งานรวมกันแล้ว ตัว Trail Shot ก็สามารถใช้งานเป็นเครื่องกรองน้ำแบบพกพาได้อีกด้วย โดยมีขนาดเล็กและใช้งานได้ง่ายมาก
ใครที่อยากได้เครื่องกรองน้ำ แบบใช้งานสะดวก ขนาดเล็กและน้ำหนักเบา Trail Base รุ่นนี้ก็น่าสนใจ เพราะไม่ว่าจะเป็นทริปเดินป่า หรือเอาไปใช้งานในแคมป์ก็สะดวกทั้งนั้น
ราคา 4,950 บาท
ชุดหม้อขนาดเล็กสำหรับคนที่อยากได้ของเบาๆ เวลาไปเดินป่า ชุดหม้ออันนี้เหมาะสำหรับการต้มน้ำ ด้านบนเป็นฉนวนกันความร้อน สามารถถือดื่มได้ มาพร้อมที่จับหม้อ และถ้วยพลาสติก เป็นอุปกรณ์เล็กแต่น่าใช้
มีให้เลือก 2 ขนาด
Trail Mini Solo (0.75 L) : 1,450 บาท
Trail Mini Duo (1.2 L) : 1,800 บาท
หน้าที่เข้าชม | 2,629,325 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,009,359 ครั้ง |
เปิดร้าน | 31 ต.ค. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 4 ก.ย. 2568 |