ทำไมแยก 14 ตุลา กับ 6 ตุลา ไม่ออก
ไม่แปลก ถ้าหากคุณจะงงงันระหว่างเหตุ 14 รวมทั้ง 6 ตุลา ไม่ว่าจะกำเนิดทันไหม จำนวนไม่ใช่น้อยคนชื่นชอบจำ 14 ตุลา ได้มากกว่า เพราะเหตุว่าเป็นเหตุ ‘ระบบประชาธิปไตย’ ที่นิสิตรวมทั้งคนเดินดินเป็นข้างชนะ ไม่เหมือนกับ 6 ตุลา ที่มีคนอยากให้ลืมเพราะเป็นรอยแผลฉกรรจ์ของหน้าประวัติศาสตร์การบ้านการเมืองไทย6 ตุลา มีคนตาย 1 คน? สมัคร เนื่องจากว่าเวช กล่าวไว้เมื่อกุมภาพันธ์ 2551 ถึงแม้ว่าตัวเขาเองเมื่อครั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวกับเด็กนักเรียนไทยที่ประเทศฝรั่งเศสในปี 2520 ว่า เหตุ 6 ตุลา มีคนเสียชีวิต 48 คน
สถานะการณ์ 6 ตุลา (พุทธศักราช 2519) หรือในภาษาอังกฤษเรียกชื่อเชิงอธิบายว่า การฆ่ากลุ่มที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นการผลาญอย่างยิ่งถึงชีวิตของตำรวจรวมทั้งการรุมประชาทัณฑ์ของกำลังครึ่งหนึ่งทหารรวมทั้งคนมุงฝั่งขวาต่อนิสิตแล้วก็คนประท้วงฝั่งซ้ายในและก็รอบๆหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าดวงจันทร์ รวมทั้งสนามหลวง เป็นการจบการโต้แย้ง การเคลื่อนขบวนและการยึดพื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ของนิสิต คนงานรวมทั้งคนคัดค้านซึ่งต้านทานการเดินทางกลับประเทศของจอมพลถนอม คำเล่าลือแผ่กว้าง สมัยก่อนนายกฯ ช่วงวันที่ 28 เดือนกันยายน 2519 ในวันที่ 6 ตุลาคม ตำรวจใช้อาวุธการสู้รบกำจัดการถกเถียง และก็ตามด้วยกรุ๊ปฝั่งขวาที่รุมประชาทัณฑ์ในลักษณะร่วมมือกับตำรวจ นำมาซึ่งการทำให้มีคนตายและผู้ที่บาดเจ็บ สถิติเจอผู้ตาย 46 ผู้ที่มีการชันสูตรวินิจฉัยศพ ซึ่งสาเหตุการตายมีทั้งยังถูกยิงด้วยอาวุธปืน ถูกทำร้าย รวมทั้งถูกเผา แม้สถิติไม่เป็นทางการจากมูลนิธิป๋วยคาดว่ามีคนตายกว่า 100 คน
ข้างหลังเหตุ 14 ตุลา (พุทธศักราช 2516) ทำให้รัฐบาลทหารหมดอำนาจ ประเทศมีบรรยากาศอิสรภาพ และก็มีการเจริญรุ่งเรืองของความนึกคิดฝั่งซ้ายต่างๆตลอดจนการต้านของคนงานและจากนั้นก็เกษตรกรอยู่เนืองๆร่วมกับความไม่มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจรวมทั้งการบ้านการเมือง กรุ๊ปฝั่งขวาต่างๆซึ่งรู้สึกหนักใจกับชัยของระบอบคอมมิวนิสต์ในประเทศเพื่อนบ้าน ใช้กรรมกรรมวิธีรบกวนขั้นตอนการฝั่งซ้ายจนถึงมีคนเสียชีวิตอยู่หลายจังหวะ เวลาเดียวกัน มีข้างกองทัพอย่างน้อยสองฝ่ายเพียรพยายามคิดแผนให้กำเนิดรัฐประหารอีกรอบ โดยข้างหนึ่งใช้กรรมวิธีการนำตัว "สามทรราช" กลับประเทศเพื่อหวังให้กำเนิดเรื่องแย่ลงกว่าเดิม วันที่ 19 เดือนกันยายน 2519 จอมพล ถนอม คำเลื่องลือแผ่กว้าง เดินทางกลับประเทศ แล้วก็บรรพชาเป็นภิกษุที่วัดบวรนิเวศวิหารโดยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้วก็สมเด็จพระราชินีทุ่งนาถเสด็จฯ ดี นิสิตปักหลักต้านทานที่สนามหลวง และจากนั้นก็ย้ายไปมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิทยาเขตท่าดวงจันทร์ เริ่มช่วงวันที่ 30 เดือนกันยายน ในวันที่ 4 เดือนตุลาคม นิสิตวางแผนแสดงล้อเหตุฆ่าคนงานฝั่งซ้ายที่จังหวัดนครปฐม วันที่ 5 เดือนตุลาคม มีการพิมพ์ข่าวสารการแสดงอย่างที่พูดไปแล้ว โดยมีสื่อฝั่งขวาลงว่าบุคคลที่ถูกแขวนคอนั้นมีบริเวณใบหน้าคล้ายกับสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ไทยองค์รัชทายาท ได้ผลให้กำลังครึ่งเดียวทหารที่แค้นเคืองมาชุมนุมกันนอกมหาวิทยาลัยในเย็นนั้น ท่ามกลางสื่อฝั่งขวาที่โหมปลุกความไม่ชอบอยู่เป็นประจำ มีคนคัดค้านอยู่ในมหาวิทยาลัยราว 4,000 คน รวมทั้งมีตำรวจแล้วก็คนมาล้อมไว้ราว 8,000 คน
วันที่ 6 เดือนตุลาคม ตำรวจปิดทางเข้าออกมหาวิทยาลัยไว้ทุกด้านตั้งแต่กลางดึก ระหว่างเวลา 5.30–11.00 น. ตำรวจเริ่มใช้อาวุธการรบหลากหลายประเภททั้งปืน เครื่องยิงระเบิด ปืนต่อสู้รถถังและระเบิดมือเข้ากำจัดคนคัดค้าน พลตำรวจโท รวมพล โลหะชาละ รองอธิบดีกรมตำรวจ อนุญาตให้ยิงเสรี มีการยิงปะทะระหว่างสองฝ่ายช่วงสั้นๆก่อนคนประท้วงเป็นข้างแพ้อย่างเร็ว คือการใช้กำลังกำเนิดกว่าเหตุและก็ขาดความเที่ยงตรง ในเหตุที่แมกกาซีน ไทม์ เรียกว่า "ฝันร้ายของการรุมประชาทัณฑ์และก็การเผา" นิสิตเป็นที่ยอมรับความแพ้พ่ายแล้วแล้วหลังจากนั้นก็ที่กำลังแอบลูกปืนถูกทำร้ายร่างกาย โจรกรรมปล้นสิน ใช้ความรุนแรงทางเพศ ถูกยิง เผาทั้งที่ยังไม่ตาย รวมถึงทำร้ายจนตาย ส่วนศพถูกทำลายแล้วก็เผา คนประท้วง 3,094 คนโดนจับ ส่วนผู้ทำฆ่าได้รับความดีความชอบ สาขาวิชาผู้ยึดอำนาจการปกครองที่มีพลเรือเอก เงียบ ชลออยู่เป็นหัวหน้าสาขาวิชา ยึดอำนาจในเวลา 18.00 น. โดยอ้างเหตุนิสิตหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ รวมทั้งมีอาวุธหนัก
หน้าที่เข้าชม | 2,629,325 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,009,359 ครั้ง |
เปิดร้าน | 31 ต.ค. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 4 ก.ย. 2568 |